เมนู

จักขุนทรีย์ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ กายินทรีย์เป็นปัจจัยแก่
กายวิญญาณ ฯลฯ
รูปชีวิตินทรีย์ เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของ
อินทริยปัจจัย.

17. ฌานปัจจัย 18. มัคคปัจจัย


เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของฌานปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจ
ของมัคคปัจจัย
เหล่านี้พึงกระทำให้เป็นสเหตุกธรรม. (มี 7 วาระ)

19. สัมปยุตตปัจจัย


เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของสัมปยุตตปัจจัย เหมือนกับสัมปยุตต-
วาระ1 ในปฏิจจวาระ (มี 11 วาระ)

20. วิปปยุตตปัจจัย


[970] 1. ทัสสเนนปหาตัพพเหตุกธรรม เป็นปัจจัยแก่เนว-
ทัสสเนนนภาวนายปหาตัพพเหตุกธรรม ด้วยอำนาจของวิปยุตต-
ปัจจัย

มี 2 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ และ ปัจฉาชาตะ เหมือนกับ
ทัสสนติกะ.
1. น่าจะเป็นสัมปยุตตปัจจัย

[970] 2. ภาวนายปหาตัพพเหตุกธรรม เป็นปัจจยแก่เนว-
ทัสสเนนนภาวนายปหาตัพพเหตุกธรรม ด้วยอำนาจของวิปปยุตต-
ปัจจัย

มี 2 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ และ ปัจฉาชาตะ เหมือนกับ
ทัสสนติกะ.
[972] 3. เนวทัสสเนนนภาวนายปหาตัพพเหตุกธรรม เป็น
ปัจจัยแก่เนวทัสสเนนนภาวนายปหาตัพพเหตุกธรรม ฯลฯ

มี 3 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ ปุเรชาตะ และ ปัจฉาชาตะ
เหมือนกับทัสสนติกะ.
ที่เป็น ปัจฉาชาตะ ได้แก่
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นเนวทัสสเนนนภาวนายปหาตัพพเหตุกธรรม ที่เกิด
ภายหลัง และโมหะ เป็นปัจจัยแก่กายนี้ ที่เกิดก่อน.
[973] 4. เนวทัสสเนนนภาวนายปหาตัพพเหตุกธรรม เป็น
ปัจจัยแก่ทัสสเนนปหาตัพพเหตุกธรรม ฯลฯ

มีอย่างเดียว คือที่เป็น ปุเรชาตะ ได้แก่
หทยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นทัสสเนนปหาตัพพเหตุก-
ธรรม ฯลฯ.

[974] 5. เนวทัสสเนนนภาวนายปหาตัพพเหตุกธรรม เป็น
ปัจจัยแก่ภาวนายปหาตัพพเหตุกธรรม ฯลฯ

มีอย่างเดียว คือที่เป็น ปุเรชาตะ ได้แก่
หทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นภาวนายปหาตัพพเหตุกธรรม
ฯลฯ
[975] 6. เนวทัสสเนนนภาวนายปหาตัพพเหตุกธรรม เป็น
ปัจจัยแก่ทัสสเนนปหาตัพพเหตุกธรรม และเนวทัสสเนนนภาวนาย-
ปหาตัพพเหตุกธรรม ฯลฯ

มีอย่างเดียว คือที่เป็น ปุเรชาตะ ได้แก่
หทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา และโมหะ
ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย.
[976] 7. เนวทัสสเนนนภาวนายปหาตัพพเหตุกธรรม เป็น
ปัจจัยแก่ภาวนายปหาตัพพเหตุกธรรม และเนวทัสสเนนนภาวนาย-
ปหาตัพพเหตุกธรรม ฯลฯ

มีอย่างเดียว คือที่เป็น ปุเรชาตะ ได้แก่
หทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ และโมหะ
ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย.

[977] 8. ทัสสเนนปหาตัพพเหตุกธรรม และเนวทัสสเนน-
นภาวนายปหาตัพพเหตกธรรม เป็นปัจจัยแก่เนวทัสสเนนนภาวนาย-
ปหาตัพพเหตุกธรรม ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย

มี 2 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ และ ปัจฉาชาตะ
ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่
ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาที่เกิดพร้อมกัน และโมหะ เป็น
ปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย
ที่เป็น ปัจฉาชาตะ ได้แก่
ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาที่เกิดภายหลัง และโมหะ เป็น
ปัจจัยแก่กายนี้ ที่เกิดก่อน ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย.
[978] 9. ภาวนายปหาตัพพเหตุกธรรม และเนวทัสสเนน-
นภาวนายปหาตัพพเหตุกธรรม เป็นปัจจัยแก่เนวทัสสเนนนภาวนาย-
ปหาตัพพเหตุกธรรม ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย

มี 2 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ และ ปัจฉาชาตะ
ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่
ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยอุทธัจจะที่เกิดพร้อมกัน และโมหะ เป็น
ปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย.
ที่เป็น ปัจฉาชาตะ ได้แก่
ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยอุทธัจจะที่เกิดภายหลัง และโมหะ เป็น
ปัจจัยแก่กายนี้ ที่เกิดก่อน ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย.

21.อัตถิปัจจัย


[979] 1. ทัสสเนนปหาตัพพเหตุกธรรม เป็นปัจจัยแก่ทัสส-
เนนปหาตัพพเหตุกธรรม ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย

คือ ขันธ์ ที่เป็นทัสสเนนปหาตัพพเหตุกธรรม ฯลฯ
[980] 2. ทัสสเนนปหาตัพพเหตุกธรรม เป็น ปัจจัยแก่เนว-
ทัสสเนนนภาวนายปหาตัพพเหตุกธรรม ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย

มี 2 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ และ ปัจฉาชาตะ
ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นทัสสเนนปหาตัพพเหตุกธรรม ที่เกิดพร้อมกัน
เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.
ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่
ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่เกิดพร้อมกัน เป็นปัจจัยแก่
โมหะ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย
ที่เป็น ปัจฉาชาตะ ได้แก่
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นทัสสเนนปหาตัพพเหตุกธรรม ที่เกิดภายหลัง เป็น
ปัจจัยแก่กายนี้ ที่เกิดก่อน ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.
[981] 3. ทัสสเนนปหาตัพพเหตุกธรรม เป็นปัจจัยแก่ทัสส-
เนนปหาตัพพเหตุกธรรม และเนวทัสสเนนนภาวนายปหาตัพพเหตุก-
ธรรม ฯลฯ